ต้นไม้ทิพย์

มนทิพย์ ซื่อวัฒนากุล 2016

ต้นไม้ทิพย์

แปลกไหม…….
เวลาเพียงสี่ปีใต้ร่มเงาของเทวาลัย จะให้ดอกออกผลกับเรา….ให้เราได้เก็บเกี่ยวกินใช้ได้ตลอดชีพ  ราวกับลงมือปลูกต้นไม้ทิพย์ก็ไม่ปาน.. เพราะเมื่อมานั่งพินิจพิศสิ่งที่อยู่ชีวิตตัวเองในทุกวันนี้ ล้วนแล้วแต่มีที่มาจากการเป็นหนึ่งในต้นกล้า…ต้นเล็กๆที่งอกงามในชายคาเทวาลัยทั้งนั้น
เอาตั้งแต่ลืมตาตื่นมาเลยนะ   เห็นหน้าคนร่วมเตียงเคียงหมอนที่นอนด้วยกันมายี่สิบปี ก็มาจากคณะข้างๆ  เมื่อย้ายตัวเอง..มานั่งจิบกาแฟยามเช้าก่อนเริ่มวันใหม่…เห็นหนุ่มน้อยหน้าใส เดินไปเดินมาในบ้านแต่งชุดนิสิตเตรียมตัวไปเรียน…  ไลน์แรกของเช้าวันใหม่ที่เปิดตั้งแต่ไม่ก้าวขาลงจากเตียงคือ ไลน์กลุ่มมีสมาชิกแปดคนเป็นเด็กอักษร รหัส 25 ….อันนี้ก็แปลก..เพราะเมื่อตอน อยู่ในคณะเพื่อนกลุ่มนี้ไม่เคยเสวนากันสักคำ จบมายี่สิบปีถึงได้มาพูดกัน พูดแล้วคงพูดกันต่อไปถึงชาติหน้าก็ดูแล้วยังไม่จบบทสนทนา
เพื่อนที่รักใคร่ผูกพันดูแลกันและกันยิ่งกว่าพี่น้องคลานตามกันมาที่มีอยู่ ก็เป็นเพื่อนอักษรอีกนั้นแหละ คบกะใครก็ไม่ลึกซึ้งได้เท่าคนพวกนี้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ใครรู้ช่วยบอกที
แม้กระทั่งรอยแผลเล็กๆในหัวใจก็ยังได้มาจากแถวๆนี้
หน้าที่การงานที่ทำมาหาเลี้ยงชีพได้ดีงามในวันนี้ ก็ทำได้ด้วยดี  จากวิธีคิดและการวิเคราะห์ที่ถูกบ่มเคี่ยวมาตลอดสี่ปีใต้ร่มเงาชงโค ในรั้วสีชมพู นี่ยังไม่นับว่า ระยะทางที่ยาวนานกว่าสามสิบที่มีมาในชีวิต ทั้งเรื่องครอบครัว ในการทำงาน การมองโลก ที่อยู่กับคนหลากหลาย การทำความเข้าใจตนเอง และคนที่ต้องอยู่ด้วย  การที่ต้องหาที่ยืนให้ตัวเองอย่างมั่นคง   ความผูกพัน รักใคร่ เอ็นดู ชื่มชม นับถือ ช่วยเหลือ ดูแล กันและกัน และความสัมพันธ์ประดามีที่มักจะเกิดขึนเสมอในชีวิต จากพี่จุฬาน้องจุฬา ซึ่งทำให้ชิวิตเราในแต่ละช่วงผ่านไปอย่างง่ายดาย     และอื่นๆ มากมายจาระไนไม่ถ้วน  เมื่อมาคิดให้ดีแล้ว มีรากฐานการบ่มเพาะแค่เพียงสี่ปีในคณะอักษร ที่หล่อหลอมให้เราเป็นคนอย่างที่เราเป็นและอย่างที่เราภาคภูมิ
จึงอยากจะสารภาพว่า….บางครั้งเคยอยากให้อดีตย้อนกลับไปได้
อยากจะกลับไปใช้เวลาสี่ปีนั้นใหม่…..จะได้กลับไปตั้งอกตั้งใจใช้เวลาทุกนาทีในคณะให้อย่างมีค่ากว่าที่เคยเป็นมา
จะนั่งแถวหน้า……….จะมาเข้าเรียนแปดโมงเช้า    จะไม่คลานออกจากประตูหลังของห้อง116 ในชั่วโมงบ่ายๆ      จะตั้งอกตั้งใจฟังเก็บความทุกถ้อยทุกคำ ที่อาจารย์พูด   จะไม่คุยกันเองในห้องทำให้อาจารยเหลืออดจนออกไล่ปากให้ไปคุยกันในโรงอาหาร   จะไม่นั่งหลับในห้อง ………………..จะไม่วิ่งสุดเท้าออกจากห้องเรียนเมื่ออาจารย์มาช้าเพียงแค่สิบนาที…จะนั่งฟังวิชาปรัชญา Soc ของอาจารย์ ปรีชา ช้างขวัญยืนแทนการไปเดินเตร่ดเตร่ที่สยามแสควร์  จะเข้าเรียนวิชาอารยธรรมของคณะ…..แทนที่จะไปนั่งเล่นกับเพื่อนที่ลานโพธิ์ ธรรมศาสตร์    .
และที่สุดคือ ….อยากจะกลับไปกราบครูบาจารย์ที่อดทนกับเด็กเหลวไหลคนนี้ คนที่ไม่ตั้งใจสมกับความตั้งใจของอาจารย์ที่ทุ่มเทให้เรา  เด็กที่ไม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าสิ่งที่มีอยู่  เด็กคนที่ไม่รู้ว่า เป็นสีปิแห่งความงดงามที่มีความหมายกับชีวิตเราได้มากมายมหาศาล….
หากทำสิ่งที่คร่ำครวญมาไม่ได้…จึงทำได้แค่ขอสารภาพมายังที่ตรงนี้
ด้วยความซาบซึ้งใจในคำที่ว่า
……พระคุณของแหล่งเรียนมา……….
…….จุฬาลงกรณ์………….

มนทิพย์ ซื่อวัฒนากุล

อบ. 50


1