phonphirune@hotmail.com

ชงโคไทม์

D8A626EC-BCD4-4037-AAAB-3CFFB95421BB-9aa670c1

เราคงจะเริ่มสว แล้วจริงๆ😅  ถึงชอบถ่ายรูปดอกไมั ถ่ายไว้เยอะๆ ก็เลยเอามาทำเป็นคลิปไว้ จะได้ส่งต่อได้ง่ายกว่าส่งรูปเยอะๆ และเราก็ได้เรียนรู้การทำคลิปง่ายๆ ด้วย 

ถ่ายรูปดอกไม้… ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องความลงตัว… ณ เวลา ณ สถานที่ นั้นๆ พอเวลาเปลี่ยน ภาพที่เห็นเปลี่ยน ความรู้สึกก็เปลี่ยน…🌷🌸

 

    5

    รีไทร์หรรษา ตอน happy living

    เราอยากจะแชร์เรื่อวแนวคิดบ้านอยู่ตอนเกษียณ 

    เราเป็นคนโสด เป็นคนเล็กของครอบครัว คงต้องพึ่งพาตัวเอง เลยจะฝากชีวิตบั้นปลายไว้กับ the Aspen Tree 

     

    กดที่ภาพเพื่อดูวีดีโอค่ะ

      1

      ตามรอยเพื่อนแป๊ด

      เพื่อนแป๊ดแนะนำให้ลองใช้บริการของ Finnomena พอดีเราเห็นโฆษณาของ Finnomena Exclusive เราก็เลยลองกดรับบริการที่ปรึกษาฟรี

      แล้วเราก็ได้รับโทรศัพท์จากบริษัท สอบถามความต้องการของเราเบื้องต้น แล้วนัดหมายให้เราคุยกับผู้เชี่ยวชาญอีกที ระหว่างรอคุย เราก็ไปดาวน์โหลด app Finnomena ไว้ก่อน

      Adviser โทรมาคุยตามเวลานัดกันไว้ อธิบายแผนการลงทุนที่เหมาะสมให้กับเรา แล้วเราก็ไปเลือกแผนนั้นใน app ต่อเองได้เลย แผนที่เราเลือก ระบบจะเลือกกองทุนและสัดส่วนให้เราเลย โดยที่เราไม่ต้องเลือกกองทุนเอง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาเองแบบเรา

      เรารู้สึกว่า app ของเค้าใช้ง่ายมาก มีแผนการลงทุนหลากหลาย และวงเงินแตกต่างไป  และมีข่าวสารให้อ่านตลอด ยอมรับว่าบางอันก็ดู too technical ไปสำหรับเรา แต่ส่วนใหญ่ก็อ่านเข้าใจได้

      ขอบคุณแป๊ดที่แนะนำ เราก็ได้ยินมานานแล้ว แต่ไม่มีความมั่นใจ จนเพื่อนยืนยันให้ลองดู

        1

        ตามรอย เพื่อนก้อง ประสบการณ์ใหม่ในการตรวจร่างกาย 

        หลังจากฟังเพื่อนก้อง เล่าเรื่องการตรวจเช็คร่างกายเพิ่มเติม โดยพิจารณาจากโรคเจ็บป่วยของครอบครัว จากงานจุดประกายรีไทร์หรรษา ซีรียส์การเงิน เราเลยยอมจ่ายเงินเพิ่มจากแพ็คเก็จตรวจร่างกายปกติอีก 2 อย่างคือ 
        1. Coronary artery calcium scoring (CT) Procdure 
        2. Dropper Corotid Procedure 
        ราคารพ.เอกชน ก็ตกรายการราวๆ 6,000 กว่าบาท  อีกเหตุผลหนึ่ง ที่เราคิดไปตรวจเพิ่ม เพราะคุณแม่เราเสียชีวิตจากหินปูนเกาะลิ้นหัวใจ

        ที่จริง ครอบครัวเรามีความเสี่ยงเรื่องมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ พี่สาวเรา 5 คนเป็นครบหมด.. เหลือเรารอดอยู่คนเดียว ณ เวลานี้  ไว้จะมาเล่าให้ฟังในกระทู้หน้า 

        อันแรก เป็นการตรวจระดับของแคลเซียม เพื่อดูความเสี่ยงของโรคหัวใจ เป็นการตรวจด้วยเครื่อง CT scan ตอนแรกก็อดตกใจนิดๆ ว่า CT scan เลยเหรอ อยู่ดีๆ ไปรับรังสีจะดีเหรอ .. ถามหมอประจำตัว หมอว่าไม่เป็นอันตรายอะไร  และยังไม่ใช่ขั้นตอนที่ต้องฉีดสี.. เค้าว่าตรวจไม่เกิน 30 นาที ตรวจจริงๆ ไม่ถึง 5 นาที ก็ไปนอนนิ่งๆ ผ่านอุโมงค์สั้นๆ เฉพาะส่วน นับหนึ่งสองสาม หายใจเข้า หายใจออก กลั้นหายใจ.. 2 รอบเสร็จ แต่ 30 นาทีจริงแล้ว คือเวลารอเข้าอุโมงค์..หุหุ

        อันที่สอง เป็นการตรวจหลอดเลือดใหญ่ที่คอ สองด้านด้วยอุลตร้าซาวด์ ก็เหมือนการตรวจอุลตราซาวด์ช่องท้อง ที่เพื่อนๆ เคยตรวจกันอยู่แล้ว เพียงแต่เค้าตรวจที่คอ ด้านข้าง สองข้าง ดูว่าเรามีหินปูนเกาะที่หลอดเลือด ที่บล็อคไม่ให้เลือดไหลขึ้นไปสมองไหม เช็คความเสี่ยงของการเกิด stroke  มีช่วงหนึ่ง เราจะได้ยินเสียง ครึ ครึ เหมือนเสียงน้ำผ่านท่อ อันนี้ เป็นจุดที่เราเห็นว่าแตกต่างจากการตรวจอุลตร้าซาวด์ช่องท้อง เค้าว่าเป็นเทคนิคการตรวจ

        ผลตรวจของเราทั้ง 2 อย่าง อยู่ในเกณฑ์ปกติ สบายใจไปได้อีก 1 ปี… คิดเองว่า คงจะยังไม่จำเป็นต้องตรวจซ้ำทุกปี ค่อยไปปรึกษาหมอตอนจะตรวจร่างกายครั้งต่อไป 

        2

        ตามรอยเพื่อนก้อง.. ตรวจสุขภาพต่อ

        ตามที่เพื่อนก้องแนะนำให้เช็คดูว่าครอบครัวเราเป็นโรคอะไร เราควรจะไปตรวจร่างกายในเรื่องนั้นๆ เพิ่ม

        ครอบครัวเรา มีความเสี่ยงเรื่องโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว พี่สาวคนที่สองเป็นมะเร็งเต้านม ตรวจพบช่วงเวลาใกล้ๆ กับพี่สาวคนที่ 4 พี่คนนี้ยังมาเป็นมะเร็งกระดูกและต่อมน้ำเหลืองต่อมา 4-5 ปีที่แล้ว พี่สาวคนโต อายุ 70 กว่า เป็นมะเร็งเต้านม แล้วมาเป็นมะเร็งที่ผนังหน้าท้อง ต่อมา พี่สาวคนที่ 5 ตรวจเจอมะเร็งรังไข่ระยะ 3 หลังตรวจร่างกายประจำปี 6 เดือน และล่าสุด ปีที่แล้ว พี่สาวคนที่ 3 ก็ตรวจเจอมะเร็งรังไข่ แม้แต่หลานสาว ลูกสาวพี่สาวคนที่ 4 อายุ 30 กว่า ก็ตรวจเจอมะเร็งเต้านม

        เราเอง ก็ตรวจเจอเนื้องอกเยื่อบุมดลูก ตอนอายุ 39 ก็เลยส่องกล้องเอาออก เพราะเกรงเนื้อจะกลาย ผ่านไป 3 ปี เนื้องอกก็เริ่มกลับมาอีก เลยต้องคอยหมั่นตรวจทุกปี เราตรวจ mamaogram ultrasound เต้านม & whole abdomen ตรวจ pap smear และตรวจค่ามะเร็งจากเลือด แบบนี้ ทุกปี ดีที่เนื้องอกไม่โตเร็ว หมอว่า หมดประจำเดือนก็จะฝ่อไปเอง

        พี่สาวคนโต พอเจอเป็นมะเร็ง ก็เลยจัดตรวจยีนของพี่น้อง ลูกหลานคนในครอบครัว ที่รพ.รามา พี่สาวเป็นยีนตั้งต้น คนแรกมีค่าใช้จ่ายสูงหน่อย แต่คนต่อๆ ไป เสียค่าใช้จ่ายคนละพันกว่าบาท พี่ชายสองคนก็ไปตรวจ ไม่พบยีนมะเร็ง ลูกสาวสองคนของพี่สาวคนโต อายุ 40 กว่า ตรวจพบยีนมะเร็ง ทำงานอยู่อเมริกา ตัดสินใจผ่าตัดเต้านมและและรังไข่ เพื่อลดความเสี่ยง หลานอีกคนอยู่ไทย ลูกพี่ชาย ตรวจพบ ก็ไปตัดเต้านม และกำลังจะไปตัดรังไข่ออก… คนรุ่น 50 แบบเราคงไม่คิดจะทำแน่

        ส่วนเรา ไม่มีเวลาไปตรวจที่รามา เพราะต้องไปวันทำงาน.. ก็ใจตุ้มต่ำกับการไปตรวจร่างกายทุกปี พี่สาวสองคน เป็นมะเร็งก่อนนานแล้ว เราเคยคิดเข้าข้างตัวเองว่าเราเลือดคนละกรุ๊ปกับพี่สองคน เราคงจะรอด พอพี่สาวคนโตที่มีเลือดกรุ๊ปเดียวกันเป็น เราก็เริ่มเสียวละ…

        จนปี 2561 เราตัดสินใจตรวจที่บำรุงราษฎร์เองคนเดียว จ่ายไปหลาย แต่ผลที่ออกมาเราไม่มียีนตัวนี้… โล่งใจ แต่ก็วางใจไม่ได้ทีเดียว เพราะในผลเขียนไว้ว่า ยีนอาจจะmutate ได้ ก่อนที่จะตรวจยีน เราตรวจ ultrasound ปีละ 2 ครั้ง หลังจากทราบว่าพี่สาวคนที่ 5 เป็น พอผลตรวจยีนออก  เราก็ลดเหลือปีละหนพอ..

        เราแปะลิ้งค์อธิบายเรื่องการตรวจยีนมะเร็งไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์

        https://www.chulacancer.net/faq-list-page.php?id=331

        1

        อาชีพทำแก้เหงาหลังวัยเกษียณ…เพิ่มรายได้อีกทาง

        ที่มา : 108resources/ข้อคิดคำคม by kiddidee posted 14 Oct 2021

        อาชีพคือเส้นทางทำมาหากินของทุกๆคน ซึ่งเมื่อโตมาเรียนจบทุกคนก็ต้องมีอาชีพเป็นของตัวเอง แต่การทำงานในองค์กรย่อมมีวันหมด
        แล้วเราจะหารายได้มาจากไหนได้อีก วันนี้เรามีอาชีพทำแก้เหงาหลังวัยเกษียณมาฝากกัน เผื่อเป็นแนวทางให้คนที่กำลังจะเข้าสู่วัยสูงอายุเต็มตัวแต่ไม่อยากหยุดทำงานหาเงิน
        หลายคนเมื่อถึงวัยเกษียณแล้ว คงอยากใช้เวลาไปกับการหยุดพักผ่อนจากการทำงานหนักมาตลอดชีวิต แต่เชื่อว่าคงมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อย ที่แม้จะเกษียณแล้ว ก็ไม่อยากหยุดทำงาน ยังมีไฟที่จะออกไปทำสิ่งที่ตัวเองรัก เพื่อชีวิตจะได้ไม่เงียบเหงา แถมยังเป็นการหา   รายได้ แบ่งเบาภาระของลูกหลานอีกทาง
        วันนี้ จึงได้รวบรวมอาชีพวัยเกษียณน่าสนใจ ทำแก้เหงาก็ได้ เพิ่มรายได้เสริมก็โดน มาฝากคนวัยเกษียณที่กำลังมองหาว่าจะทำอะไรดี

        1. เปิดบ้านพักโฮมสเตย์
        หากมีพื้นที่ในบ้าน มีห้องพักเหลือ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรละก็ ลองเอามาปล่อยเช่าสร้าง  รายได้ เป็นแนวบ้านพัก โฮมสเตย์ ดูก็เข้าท่า ยิ่งถ้าใครมีบ้านอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวด้วยนะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เชื่อว่าคงมีลูกค้า นักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาใช้ บริการไม่ขาดสายเลยล่ะ อีกทั้งยังจะได้เพื่อนเอาไว้พูดคุยแก้เหงาอีกด้วย

        2. ขับรถรับ-ส่ง / ขับรถพาผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล
        ถ้ามีใบขับขี่ขับรถเป็น ใช้สมาร์ตโฟนได้ จะทำอาชีพขับรถส่งของ หรือส่งอาหารก็ไม่เลว แถมยังรายได้ดีมาก เพราะ ตอนนี้เป็นยุคที่คนสั่งอาหารและซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น หรือถ้าไม่ถนัดแบบนี้แนะนำให้ไปขับรถรับ-ส่งพาผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล เชื่อไหมว่าอาชีพนี้มีลูกค้ารอใช้บริการจำนวนไม่น้อยเลย เพราะต้องการคนขับรถที่ไว้ใจได้ คอยดูแลผู้ป่วยระหว่างเดินทางและสามารถเป็นลูกค้าขาประจำได้ในอนาคต รับรองว่าทำ   รายได้ดีทีเดียว

        3. ลงทุนตู้หยอดเหรียญ
        เดี๋ยวนี้เราเห็นตู้หยอดเหรียญตามจุดต่าง ๆ เต็มไปหมด แน่นอนว่าผู้สูงอายุที่มีเงินทุนจำนวนหนึ่ง อาจเจียดเงินบางส่วนมาลงทุน ในธุรกิจตู้หยอดเหรียญ ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ เพราะไม่ต้องดูแลมากลงทุนทีเดียว รอรับผลตอบแทนได้เลย แถมธุรกิจตู้หยอดเหรียญ
        สมัยนี้ก็มีให้เลือกลงทุนกันสารพัด เช่น ตู้กดน้ำ ตู้เติมเงิน ตู้เติมน้ำมันหรือจะเป็นตู้เติมลม   ยางรถ ถ้าคิดว่าทำเลของเราเหมาะกับการติดตั้งตู้หยอดเหรียญประเภทไหนก็ลองหาข้อมูลแล้วลงทุนกันดู

        4. ทำอาหาร-ทำขนมขาย
        ใครที่ปกติชื่นชอบการเข้าครัว ทำอาหาร ทำขนม ให้ลูก ๆ หลาน ๆ กินกันเป็นประจำอยู่แล้ว อาจจะลองนำเงินเก็บที่มีมาลงทุนทำอาหารขายก็ไม่เลวนะไม่แน่ถ้ารสชาติอร่อยถูกอกถูกใจลูกค้า คงช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงวัยเกษียณได้ไม่น้อยเลย

        5. รับจ้างเลี้ยงเด็ก
        ผู้สูงอายุหลายคน มีประสบการณ์เลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน มาก่อน จึงเข้าใจเด็ก ๆ เป็นอย่างดี ก็เหมาะเลยกับงานรับจ้างเลี้ยงเด็กในยุคที่พ่อแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านไม่มีเวลาดูแลลูกเล็ก แต่ถ้าเดินทางไม่สะดวก หรือไม่อยากเดินทางไกล ก็สามารถเลือกรับเลี้ยงเด็กที่อยู่ในหมู่บ้าน หรือในกลุ่มคนรู้จักแถวละแวกบ้าน

        6. ขายของออนไลน์
        ยุคนี้ที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว การขายของออนไลน์จึงเป็นหนทางสร้างรายได้ที่คนสนใจอย่างมาก ด้วยความที่เริ่มต้นง่ายใช้เงินลงทุนไม่มาก แถมมีโอกาสทำเงินได้สูง จึงเป็นอาชีพเสริมที่เหมาะกับผู้สูงอายุเลยทีเดียว ถ้าไม่รู้จะขายสินค้าอะไรดี ก็อาจจะลองเลือกขายสินค้าที่ตัวเองมีความสนใจ หรือมีความรู้ในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ดูก่อน

        7. ช่างซ่อม
        อาจจะเป็นงานที่ต้องใช้กำลังแรงกายมากสักหน่อย แต่ถ้าใครที่ยังสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี คล่องแคล่วว่องไว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และมีทักษะความสามารถด้านงานช่างติดตัวอยู่แล้วละก็ การรับจ้างซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ภายในบ้านต่างๆ ก็เป็นแหล่งรายได้ที่ดีทีเดียว แถมยังออกกำลังไปในตัว ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าตลอดเวลา

        8. นักเขียน
        จัดว่าเป็นอาชีพที่หลายคนสามารถทำกันได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเขียนหนังสือ เขียน Blog หรือเขียนรีวิวสินค้าต่าง ๆ เพราะเชื่ออยู่แล้วว่า ทุกคนคงมีสิ่งที่ถนัดและสนใจแตกต่างกันไป เพียงแค่นำสิ่งเหล่านั้น กลั่นกรองออกมาเป็นตัวหนังสือ ยิ่งบวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้อาชีพนักเขียนเหมาะกับคนวัยเกษียณเป็นที่สุด หรือถ้าใครมีจินตนาการบรรเจิดก็ยังสามารถเขียนการ์ตูน หรือนิยายสนุก ๆ โพสต์ขายในอินเทอร์เน็ตได้ด้วย

        9. เปิดร้านขายของ-ร้านอาหาร-ร้านกาแฟ
        การเปิดร้านค้าขายของร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ ก็เป็นอีกช่องทางสร้างรายได้ที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีที่มีทาง มีทำเลดี ๆ เป็นของตัวเองโดยอาจจะไม่ต้องเปิดร้านใหญ่โตมากมายก็ได้ แค่เป็นร้านเล็ก ๆ พอให้มีรายได้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น การเปิดร้านขายของยังดีตรงที่ทำให้เราได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับลูกค้ามากหน้าหลายตา ช่วยให้ชีวิตไม่น่าเบื่อ ดีต่อสุขภาพกายสุขภาพใจอีกด้วย

        10. ขายภาพถ่ายออนไลน์
        จัดเป็นอาชีพเสริมยอดฮิตไม่เว้นแม้แต่คนวัยเกษียณหลายคนที่หลงรักในการถ่ายภาพ ก็หัน มาหารายได้เสริมด้วยการขายภาพ ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ต่าง ๆซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลายเว็บไซต์ ส่วนเรื่องผลตอบแทนก็ไม่น้อยเลย เผลอ ๆ บางทีอาจจะทำเงินได้มากกว่างานประจำที่เคยทำมาซกอีก

        11. ปลูกต้นไม้-ปลูกผัก-ทำเกษตร
        เชื่อแหละว่าหลายคนพอถึงวัยเกษียณแล้ว ก็อยากใช้ชีวิตเรียบง่าย ปลูกผัก จัดสวน อยู่กับธรรมชาติในช่วงบั้นปลาย งั้นลองมาปลูกผักง่าย ๆ ไว้บริโภคเองเหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บไป   ขายสร้างรายได้กันดูสิ หรืออาจจะเลือกปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ต้นไม้ขนาดเล็ก ที่ดูแลไม่    ยากและ ไม่ต้องใช้แรงมากเกินไป เอาไว้ทำสวนแก้เหงา แถมส่งขายสร้างรายได้แบบชิล ๆ ก็ยังได้อีก

        12. อาจารย์ / วิทยากรพิเศษ / นักฝึกอบรม
        คลังความรู้ที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิต ถ้าจะปล่อยให้สูญหาย ไร้ประโยชน์ คงน่าเสียดายแย่ สู้นำไปแบ่งปัน ให้คนรุ่นหลังน่าจะดีกว่าไม่น้อยเราจึงเห็นว่า มีคนวัยเกษียณจำนวน มากที่ผันตัวมาเป็นอาจารย์ หรือวิทยากรพิเศษต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าต่าง ๆ ให้คนรุ่นใหม่

        13. ที่ปรึกษาบริษัท ผู้ชำนาญการพิเศษ
        เป็นอาชีพที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากนั้น การจะเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่าง ๆ ได้ ยังจำเป็นต้องมีทั้งประสบการณ์และความน่าเชื่อถืออีกด้วยจึงพบว่าหลาย ๆ บริษัท มักจะเชิญคนวัยเกษียณ กลับมานั่งเป็นที่ปรึกษา ช่วยบริษัทตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่าง ๆ

        14. พนักงานชั่วคราว
        ในแต่ละปีมีห้างร้านหลายแห่งประกาศจ้างงานผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อย ซึ่งหน้าที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องใช้แรงงานมาก อย่างเช่น แคชเชียร์ พนักงานประจำจุดบริการลูกค้า พนักงานขาย พนักงานครัว พนักงานเสิร์ฟ พนักงานบริการต่าง ๆ เป็นต้น ไม่ต่ำกว่า 45 บาท /ชั่วโมง เท่ากันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยทำงานไม่เกิน 7 ชั่วโมง/วัน และไม่เกิน 6 วัน/สัปดาห์ทั้งนี้ คณะกรรมการค่าจ้างได้กำหนดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับอัตราค่าจ้างรายชั่วโมง (Part Time)

        15. เป็นตัวแทนประกัน
        เดี๋ยวนี้มีตัวแทนขายประกันภัย ประกันสุขภาพ ประกันรถยนต์ ฯลฯ มากมาย ขายทางออน  ไลน์ก็ยังได้ ยิ่งผู้สูงอายุที่ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว ก็จะมีเวลาว่างมาดูแลตรงนี้เต็มตัว

        16. แปลงาน / เป็นล่าม / เป็นไกด์
        อาชีพที่ต้องใช้ความสามารถทางภาษา ก็เป็นอีกสิ่งที่เหมาะกับคนวัยเกษียณเช่นกัน เพราะเป็นงานที่ต้องอาศัยประสบการณ์และ ความละเอียดรอบคอบสูง โดยมีให้เลือกทั้งการรับจ้างแปลงานที่สามารถทำที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกให้ลำบาก หรือใครขี้เบื่อ อยากออกไปพบปะผู้คนไม่ซ้ำหน้า ก็อาจจะลองดูพวกงานล่าม หรือไกด์ท่องเที่ยวก็ได้

        17. ทำงานในบริษัทเอกชน
        แม้อายุจะถึงวัยเกษียณแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องออกจากงานไปเลยซะเมื่อไหร่ เพราะสมัยนี้บริษัทเอกชน หรือ โรงงานหลาย ๆ แห่ง หันมาจ้างคนวัยเกษียณทำงานต่อกันเยอะมากเพราะได้ทั้งประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน แถมไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกพนักงานใหม่มาทดแทนอีกด้วย

        18. ทำงานฝีมือ งานศิลปะ
        จะดีแค่ไหนถ้าได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ แถมได้เงินอีกต่างหาก อย่างงานฝีมือ งานศิลปะต่าง ๆ คงเป็นสิ่งที่คนจำนวนไม่น้อย อยากทำแต่ติดตรงที่ช่วงทำงานประจำไม่มีเวลามากพอ จึงเห็นคนวัยเกษียณหันมาจับงานศิลปะ งานฝีมือ ทำเป็นงานอดิเรก เพิ่มรายได้กันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นถักโครเชต์ ถักนิตติ้ง ทำดอกไม้ประดิษฐ์ ผ้าบาติก วาดภาพเหมือน วาดภาพการ์ตูน เป็นต้น สร้างสรรค์ผลงานเสร็จแล้วจะนำไปวางขายที่ตลาดนัด หรือโพสต์ขายในอินเทอร์เน็ตก็ได้เหมือนกัน

        19. ซื้อแฟรนไชส์
        ถ้าคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเริ่มต้นเปิดร้านอย่างไรดี แนะนำให้มองหาแฟรนไชส์ที่ตัวเองสนใจ เพราะ แฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์และคู่มือไว้ให้พร้อมแล้ว แค่ลงทุน ก็เปิดร้านได้เลย บางร้านจ่ายแค่หลักพันต้น ๆ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้แล้วด้วย

        20. ลงทุน
        สำหรับคนที่มีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่งแล้วอยากนำเงินที่มีไปต่อยอดให้เพิ่มพูน อาจเลือกการลงทุนมาเป็นตัวช่วยแต่สิ่งสำคัญของการลงทุนวัยเกษียณคือ ต้องไม่เลือกการลงทุนที่เสี่ยงเกินไปและต้นทุนไม่หาย อาจลงทุ นในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเช่น พันธบัตรรัฐบาล สลากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ หรือ ตราสารหนี้ ก็ได้ แต่ถ้าใครที่มั่นใจว่ามีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการลงทุนอย่างดี ก็อาจจะเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นมาหน่อย แต่ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น อย่างกองทุนหุ้นปันผล หรือลงทุนในหุ้นปันผล เพื่อจะได้มีเงินปันผลออกมาไว้ใช้จ่ายในช่วงที่ไม่มีรายได้ซึ่งต้องขอย้ำว่า หากเลือกลงทุนในตลาดหุ้นละก็ ต้องรู้จักศึกษาข้อมูลอย่างดี มีความรอบคอบ ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต อาจจะหายหมดในพริบตาก็ได้

        1